แม้จะเคยถูกยกย่องให้เป็น “ความหวังใหม่” ของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในฤดูกาลนี้ แต่ดูเหมือนว่าเวลาจะไม่ยืนยาวนักสำหรับ อังเก้ ปอสเตโคกลู เฮดโค้ชชาวออสเตรเลีย ที่เริ่มเผชิญแรงกดดันจากทั้งผลการแข่งขันในสนาม และกระแสต่อต้านจากแฟนบอลของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเกมที่สเปอร์สบุกพ่ายให้กับเชลซี 0-1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้พวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 16 ของฤดูกาล และอันดับในตารางก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน
ประตูโหม่งของเอ็นโซ เฟร์นานเดซ ในนาทีที่ 63 กลายเป็นประตูชัยของเกม ทำให้เชลซีเก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ sbobet ขณะที่ฝั่งของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์กลับจมอยู่ในอันดับที่ 14 ของพรีเมียร์ลีก มีคะแนนตามหลังโซนท็อป 10 ถึง 10 แต้ม และยังต้องเผชิญกับคำถามมากมายเกี่ยวกับความคืบหน้าและทิศทางของทีมภายใต้การคุมทีมของปอสเตโคกลู
หลังจบเกม ผู้จัดการทีมชาวออสซี่ได้เดินไปที่บริเวณใกล้เส้นกลางสนามแล้วตบมือสั้น ๆ ไปยังแฟนบอลทีมเยือนที่เดินทางมาให้กำลังใจ แม้จะท่ามกลางเสียงโห่ร้องและความไม่พอใจอย่างชัดเจน แต่นั่นอาจจะเป็นการแสดงออกที่มาช้าเกินไปสำหรับแฟนบอลที่เริ่มหมดความอดทนกับฟอร์มที่ย่ำแย่ของทีม
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 65 เมื่อปอสเตโคกลูตัดสินใจเปลี่ยนตัว ลูคัส เบิร์กวัลล์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งออกจากสนาม แล้วส่ง ปาเป้ ซาร์ ลงมาแทน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากฝั่งแฟนบอลที่ร้องตะโกนว่า “คุณไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่” สะท้อนถึงความไม่พอใจในแท็กติกและการตัดสินใจของเขา
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์หลังจากนั้นเพียง 4 นาทีดูเหมือนจะตอบโต้เสียงโห่ได้บ้าง เมื่อปาเป้ ซาร์ยิงไกลสุดสวยเข้าประตูไปชนิดที่แฟนบอลแทบจะระเบิดเสียงเฮได้เต็มที่ ปอสเตโคกลูถึงกับยกมือขึ้นป้องหู หันไปทางแฟนบอลเหมือนจะบอกว่า “ผมรู้อะไรดี” อย่างไรก็ตาม ความดีใจอยู่ได้ไม่นาน เพราะ VAR เข้ามาเช็กจังหวะฟาวล์ก่อนหน้านั้น โดยพบว่ามีการทำฟาวล์ใส่ มอยเซส ไกเซโด้ ทำให้ประตูนั้นถูกยกเลิกไปในที่สุด ท่ามกลางเสียงโห่ที่กลับมาอีกครั้ง
หลังเกม ผู้สื่อข่าวก็ไม่พลาดที่จะถามถึงท่าทีของเขาที่ดูเหมือนจะตอบโต้แฟนบอล ซึ่งปอสเตโคกลูให้คำอธิบายว่า
“ให้ตายสิ เพื่อน มันน่าทึ่งจริง ๆ ว่าคนจะตีความกันยังไง พวกเราพึ่งยิงประตูได้ ผมแค่ต้องการฟังเสียงเชียร์ เพราะพวกเราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมา และผมคิดว่ามันเป็นประตูที่ยอดเยี่ยมมาก”
เขากล่าวเสริมว่า “ผมหวังให้แฟน ๆ ตื่นเต้น เพราะตอนนั้นผมรู้สึกว่าเรากำลังจะกลับมาได้ ผมรู้สึกว่าโมเมนตัมมันอยู่ข้างเรา... มันไม่ได้รบกวนผมเลยนะ ไม่ใช่ครั้งแรกที่แฟนบอลโห่ใส่การเปลี่ยนตัวหรือการตัดสินใจของผม พวกเขามีสิทธิ์ทำแบบนั้น”
“แต่เราพึ่งยิงประตูตีเสมอ ผมก็แค่หวังว่าแฟนบอลจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับเรา ถ้าใครจะตีความว่าผมกำลังประชดหรืออะไรก็แล้วแต่... ผมแค่รู้สึกว่าเรากำลังจะพลิกเกมได้”
เหตุการณ์ในเกมกับเชลซีครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นเพียงหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่สะสมมาตลอดฤดูกาลระหว่างปอสเตโคกลูกับแฟนบอล
ย้อนกลับไปก่อนพักเบรกทีมชาติ เกมที่พ่ายฟูแล่ม เขามีปากเสียงกับแฟนบอลอย่างเปิดเผย หรือก่อนหน้านั้นในเกมแพ้เลสเตอร์คาบ้าน ก็มีกระแสวิจารณ์หนักจากแฟนบอล รวมถึงตอนพ่ายบอร์นมัธในเดือนธันวาคม เขาก็เดินเข้าไปพูดคุยกับแฟนบอลที่แสดงความไม่พอใจต่อผลงานของนักเตะอย่างเปิดเผย
เมื่อถูกถามว่าการแสดงออกเหล่านี้อาจทำให้เขากำลังกลายเป็นบุคคลที่ห่างไกลจากแฟนบอลหรือไม่ ปอสเตโคกลูตอบด้วยความจริงใจว่า
“คุณรู้ไหม ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมไม่เข้าใจโลกใบนี้แล้วจริง ๆ บางทีคุณอาจจะพูดถูกก็ได้ แต่เจตนาของผมไม่ใช่แบบนั้นเลย”
สิ่งที่แฟนบอลจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามไม่ใช่แค่ท่าทีของโค้ชเท่านั้น แต่รวมถึงผลงานในสนามที่ยังไม่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างชัดเจน แม้จะมีนักเตะเกือบครบทีมให้เลือกใช้งาน แต่ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ก็ยังแสดงผลงานที่น่าผิดหวังอย่างต่อเนื่อง จนอาจจะเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกของพวกเขา
เจมี่ เรดแน็ปป์ อดีตกองกลางของสเปอร์ส ซึ่งรับหน้าที่วิเคราะห์เกมให้กับ Sky Sports กล่าวอย่างไม่อ้อมค้อมว่า
“ท็อตแน่มเล่นได้แย่มาก แย่ทุกด้าน เชลซีเหนือกว่าทุกอย่าง มันอาจจะแย่กว่านี้ได้อีก”
เขายังเสริมว่า “จังหวะที่ซาร์ยิงเข้า แล้วอังเก้ยกมือขึ้นเหมือนจะพูดว่า ‘เห็นไหม ผมรู้’ นั่นแหละแสดงให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างแฟนบอลกับเขาในตอนนี้ มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีสำหรับโค้ชเลย เขาต้องเงยหน้าขึ้น ต้องสู้ต่อไป ทำงานหนัก และเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่”
