ถ้าใครเคยได้ยินวาทะเด็ดของ ไบรอัน คลัฟ ตำนานผู้จัดการทีมผู้เคยนำความรุ่งเรืองมาสู่ถิ่นซิตี้ กราวด์อย่างว่า “ถ้าพระเจ้าต้องการให้เราเล่นฟุตบอลบนท้องฟ้า ท่านคงปูหญ้าไว้ข้างบนแล้ว” แทงบอล sbo ก็คงไม่แปลกใจนักว่าทำไมแฟนบอลน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึงยังหลงรักในแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังของเกมฟุตบอล นั่นคือ "เล่นให้ชัดเจน ไม่ต้องครองบอลให้มาก แต่ทำประตูให้ได้"
ในฤดูกาล 2024/25 ที่กำลังจะจบลงนี้ ทีมที่เคยหนีตกชั้นกลับผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปอย่างเหลือเชื่อ โดยไม่ต้องพึ่งพาการครองบอลแต่อย่างใด
หลังจากฤดูกาลก่อนที่จบแบบหวุดหวิดในโซนปลอดภัย ฟอเรสต์ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งด้วยการแต่งตั้ง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ อดีตกุนซือวูล์ฟแฮมป์ตันและท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาคุมทีม
ในช่วงต้นฤดูกาล หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงแนวทางของนูโน่ โดยเฉพาะเมื่อเห็นตัวเลขการครองบอลของทีมที่ตกต่ำจนน่าตกใจ ทว่าเมื่อผลการแข่งขันเริ่มเป็นไปในทิศทางบวก เสียงวิจารณ์ก็ค่อย ๆ เงียบลง
ฟอเรสต์เลือกเล่นฟุตบอลที่เน้นโครงสร้างเกมรับแน่นหนา การสวนกลับที่เฉียบคม และอาศัยความผิดพลาดของคู่แข่งเป็นหลัก โดยในฤดูกาลนี้พวกเขาครองบอลเฉลี่ยเพียง 39.3% ต่อเกม ต่ำที่สุดในลีก แต่กลับสามารถคว้าชัยชนะในเกมใหญ่ ๆ ได้หลายครั้ง เช่น การบุกชนะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 โดยครองบอลแค่ 30%
แฟนบอลยุคใหม่มักหลงใหลในทีมที่ครองบอลเหนือกว่า สร้างสรรค์เกมต่อเนื่อง และคอนโทรลแมตช์ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ฟอเรสต์ในฤดูกาลนี้ได้ฉีกทุกตำราด้วยการเป็น “ผู้ล่าในเงามืด” ที่พร้อมจะฉวยโอกาสทุกครั้งที่ได้บอล
ค่าครองบอลเฉลี่ยต่อเกม: 39.3% (อันดับสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก)
จำนวนคลีนชีต: 11 นัด
จำนวนเกมที่ชนะด้วยการครองบอลน้อยกว่า 40%: 12 นัด
จำนวนลูกสวนกลับที่เปลี่ยนเป็นประตู: สูงสุดในลีก (ร่วมกับนิวคาสเซิล)
ทีมชุดนี้ไม่เล่นฟุตบอลเพื่อความสวยงาม แต่เล่นเพื่อผลลัพธ์
ความลับของความสำเร็จของฟอเรสต์ในฤดูกาลนี้ไม่ได้มาจากดาวยิงราคาแพง หรือมิดฟิลด์จอมครีเอตแบบที่ทีมใหญ่ชอบมี แต่คือการเล่นเป็นระบบ
เซ็นเตอร์แบ็คอย่าง มูสซ่า นิอากาเต้ และวิลลี่ โบลี่ คือหัวใจสำคัญของเกมรับ
แดนกลางอย่าง โอเรล ม็องกาล่า และไรอัน เยตส์ คือเครื่องจักรขยันไล่บอล สกัดบอล และแย่งจังหวะของคู่แข่ง
แบรนแนน จอห์นสัน และมอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ คือพลังขับเคลื่อนเกมสวนกลับด้วยความเร็ว
แม้ไม่มีใครในทีมติดอันดับดาวซัลโวหรือนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน แต่องค์รวมของทีมกลับมีพลังมากกว่าความสามารถของแต่ละคน