แม้ผลการแข่งขันในนัดสุดท้ายของลาลีกาฤดูกาล 2024/25 จะไม่มีผลต่อการจัดอันดับ เนื่องจากบาร์เซโลนาได้คว้าแชมป์ไปก่อนหน้านี้ และเรอัล มาดริดจบฤดูกาลในอันดับสองเป็นที่แน่นอนแล้ว ทว่าเกมสุดท้ายที่ซานติอาโก เบร์นาเบวกลับกลายเป็นฉากสำคัญของเรื่องราวหลากหลายอารมณ์ ทั้งการเฉลิมฉลองความสำเร็จส่วนบุคคลของคีเลียน เอ็มบัปเป้ การกล่าวคำอำลาครั้งยิ่งใหญ่ของคาร์โล อันเชล็อตติ และการปิดฉากอาชีพในเสื้อราชันชุดขาวของลูก้า โมดริช หนึ่งในนักเตะผู้เป็นตำนานของสโมสร
เกมนัดสุดท้ายที่เรอัล มาดริดเปิดบ้านเอาชนะเรอัล โซเซียดาด 2-0 กลายเป็นมากกว่าชัยชนะธรรมดา เพราะนี่คือการรวมตัวกันของอดีต sbobet ปัจจุบัน และอนาคตของสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
การย้ายมาสวมชุดขาวของคีเลียน เอ็มบัปเป้ในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 นั้น ถูกจับตามองไปทั่วโลกฟุตบอล เขาคือซูเปอร์สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส ผู้ซึ่งเรอัล มาดริดไล่ตามจีบมาเนิ่นนาน และเมื่อที่สุดแล้ว การย้ายทีมก็เกิดขึ้นจริง ฤดูกาลแรกของเขาเริ่มต้นอย่างเงียบ ๆ แต่จบลงด้วยเสียงคำรามแห่งชัยชนะ
สองประตูของเอ็มบัปเป้ในเกมกับโซเซียดาด ทำให้เขาปิดฤดูกาลลาลีกาด้วยจำนวน 31 ประตู นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดเหนือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ของบาร์เซโลนาถึง 6 ประตู และมีโอกาสคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรปในปีนี้อีกด้วย
ประตูแรกของเขาในเกมมาจากจังหวะยิงจุดโทษ นาทีที่ 38 ซึ่งผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้ แต่เอ็มบัปเป้ตามซ้ำเข้าไป ก่อนจะมาซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบคมในนาทีที่ 83 เป็นการตอกย้ำผลงานของหัวหอกอนาคตไกล ที่กลายเป็นหัวใจใหม่ของราชันชุดขาวอย่างเต็มตัว
น่าทึ่งที่เขายิงได้ถึง 11 ประตูใน 6 นัดสุดท้ายของลีก ถือเป็นฟอร์มอันร้อนแรงที่ยืนยันความเป็นยอดนักล่าประตูระดับโลก และทำให้แฟนบอลเรอัล มาดริดมั่นใจว่า พวกเขากำลังได้เห็นยุคใหม่ที่กำลังจะเบ่งบาน
คาร์โล อันเชล็อตติ ชายผู้ที่แฟนบอลมาดริดรักและเคารพอย่างล้นหลาม กำลังโบกมือลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ เพื่อไปรับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชทีมชาติบราซิลในวันที่ 26 พฤษภาคม การคุมทีมเรอัล มาดริดของเขาในสองยุค (2013–2015 และ 2021–2025) สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ถึง 15 รายการ รวมถึงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และลาลีกาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ก่อนเริ่มเกม มีการแสดงความเคารพต่ออันเชล็อตติด้วยแบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่แฟนบอลในเบร์นาเบวยกขึ้น พร้อมเสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วสนาม ชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ไม่เพียงในฐานะผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จ แต่ในฐานะผู้นำที่อ่อนน้อม มีมนุษยสัมพันธ์ดี และเป็นที่รักของนักเตะทุกคน
การจากไปของอันเชล็อตติไม่ใช่จุดจบ แต่คือการเปิดโอกาสให้รุ่นใหม่เข้ามาสานต่อความยิ่งใหญ่ ในขณะที่เขาเองจะไปเผชิญภารกิจอันท้าทายกับทีมชาติที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์อย่างบราซิล
หนึ่งในช่วงเวลาที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดของเกมนี้คือการเปลี่ยนตัวลูก้า โมดริช ในนาทีสุดท้ายของเกม มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชียวัย 39 ปี ที่อยู่กับเรอัล มาดริดมาตั้งแต่ปี 2012 กำลังลงเล่นเกมสุดท้ายที่ซานติอาโก เบร์นาเบว
เขาคือส่วนหนึ่งของยุคทองของสโมสร คว้าแชมป์รวม 28 รายการ รวมถึงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 6 สมัย และลาลีกา 4 สมัย เขาคือผู้สร้างสมดุลในแดนกลาง เป็นตัวอย่างของความอุตสาหะและความทุ่มเททั้งในและนอกสนาม
ขณะที่เขาเดินออกจากสนาม เสียงปรบมือดังกระหึ่มทั้งสนาม ผู้เล่นทั้งจากมาดริดและโซเซียดาดตั้งแถวเป็นเกียรติให้เขาเดินผ่านก่อนออกจากสนาม น้ำตาของแฟนบอลหลายคนไหลอาบแก้ม เมื่อโมดริชกอดเพื่อนร่วมทีมทีละคน และได้รับการต้อนรับจากครอบครัวที่ขอบสนาม
นี่คือฉากสุดท้ายของนักเตะผู้ไม่ธรรมดา เป็นการอำลาที่เปี่ยมด้วยเกียรติยศ และแสดงถึงความรักที่ทั้งสโมสรและแฟนบอลมีให้แก่เขาอย่างแท้จริง
